แพทย์ผู้ดูแล แถลงข่าวเผยอาการ ‘หลวงปู่แสง ญาณวโร’ ณ โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี

แพทย์ผู้ดูแล แถลงข่าวเผยอาการ ‘หลวงปู่แสง ญาณวโร’ ณ โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี

แพทย์ผู้ดูแล แถลงข่าวเผยอาการ ‘หลวงปู่แสง ญาณวโร’ ณ โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี สรุปอาการอาพาธทั้งหมด 10 โรคตามอาการ คําชี้แจงจากคณะแพทย์ผู้ดูแลอาการอาพาธ “หลวงปู่แสง ญาณวโร” การแถลงข่าวอาการอาพาธ “หลวงปู่แสง ญาณวโร”โดยคณะแพทย์ฯ ผู้ได้รับมอบหมายจากศิษยานุ ศิษย์หลวงปู่แสง ญาณวโร ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 2 โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี

4 พ.ค. 65 อุบลราชธานี – ในการแถลงข่าวอาการอาพาธของ “หลวงปู่แสง ญาณวโร” 

โดยนายแพทย์เศวต ศรีศรี ผู้อํานวยการโรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี กล่าวในฐานะแพทย์ผู้เคยทําการรักษาอาการอาพาธ เล่าว่าทางคณะศิษยานุศิษย์ได้มอบหมายให้คณะแพทย์ผู้ทําการรักษาอาการอาพาธของหลวงปู่แสง มากว่า 20 ปี ให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสุขภาพของหลวงปู่แสง โดยทางคณะแพทย์วินิจฉัยว่า มีภาวะอัลไซเมอร์ ระยะ ที่ 1 มีโอกาสที่ผู้ป่วยจะมีความจําถดถอยบ้าง ถามซำ้ๆพูดซำ้ๆเรื่องเดิม แต่ยังสื่อสารและใช้ชีวิตได้ตามปกติ ส่วน จะเป็นอัลไซเมอร์ ระยะที่ 2 หรือเปล่าแพทย์เฉพาะทางยังต้องวินิจฉัยเพิ่มเติม ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบ พบว่า หลวงปู่แสง มีประวัติไข้มาลาเรียขึ้นสมอง ซึ่งในทางการแพทย์ หากการตรวจซิฟิลิส (TPHA) อาจพบเชื่อ ลวงได้ ควรตรวจซ้ําเพื่อยืนยัน หรืออาจเคยติดเชื้อซิฟิลิชมาก่อนก็เป็นได้ หากสงสัยจริงๆอาจใช้วิธีเจาะน้ําไขสัน หลังตรวจสอบเพิ่มเติม

ขณะที่ นายแพทย์ สมฤทธิ์ เวียงสมุทร นายแพทย์ชํานาญการพิเศษ โรงพยาบาลหัวตะพาน จ. อํานาจเจริญ ซึ่งให้การดูแลรักษาอาการอาพาธหลวงปู่ใกล้ชิด กล่าวว่า ในช่วงเริ่มต้นที่เริ่มเข้าไปดูแลอาการ อาพาธของหลวงปู่ มีอาการติดเชื้อที่ปอด ปอดอักเสบ), อาการปวดหลังร้าวลงขา ร่วมกับขาทั้ง 2 ข้างอ่อนแรง ซึ่งเกิดจากสาเหตุกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท และมีอาการของโรคเก๊าท์ร่วมด้วย การให้การรักษาส่วนใหญ่ แพทย์จะเดินทางไปที่วัดที่หลวงปู่แสงจําพรรษา การให้การรักษา ณ โรงพยาบาลเกิดขึ้นน้อยมาก เพราะหลวงปู่ ไม่ประสงค์เข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลและไม่ชอบฉันท์โอสถยา โดยช่วงกลางปี 2561 พระ อุปัฏฐากโทรปรึกษาถึงอาการอาพาธของหลวงปู่ที่มีอาการผิดปกติ มีพฤติกรรมแปลกไป คือมีการถูกเนื้อต้องตัว ลูกศิษย์ที่เข้าไปกราบ ซึ่งได้ให้คําปรึกษาทางการแพทย์ว่า เนื่องจากอายุมากอาจมีภาวะสมองฝ่อได้ตามวัย ซึ่ง หากบริเวณที่ฝ่อเกี่ยวข้องกับส่วนที่ทําหน้าที่ควบคุมอารมณ์และพฤติกรรม อาจส่งผลทําให้การแสดงออกทาง พฤติกรรมและอารมณ์มีความผิดปกติได้ โดยที่ความทรงจํายังเป็นปกติอยู่ เพราะสมองส่วนที่ทํางานนั้นคนละ ส่วนกัน ต่อมาทางคณะศิษย์ได้นิมนต์ไปโรงพยาบาลเพื่อเข้าเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เชียงใหม่ ทําให้ทราบว่ามีภาวะของอัลไซเมอร์

ทั้งนี้ช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 กําลังระบาด ที่มลูกศิษย์ที่ดูแลท่านก็ได้มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนเปลี่ยนไปจึงไม่ทราบว่าอาการพฤติกรรมที่ผิดปกติที่เกิดขึ้นนั้นได้รับการรักษาแล้วหรือไม่ แต่เมื่อวาน

(13 พ.ค.) คณะแพทย์ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมและตรวจอาการอาพาธเป็นที่เรียบร้อย และจะให้การดูแลรักษาอาพาธของท่านต่อไป

ช่อง 3 ประกาศพักงาน ผู้สื่อข่าวร่วมทีม ‘หมอปลา’ 15 วัน พร้อมตั้ง กก.สอบ

ช่อง 3 ประกาศพักงาน ผู้สื่อข่าวร่วมทีม ‘หมอปลา’ เป็นเวลา 15 วัน พร้อมตั้งกรรมการสอบสวน หลังถูกวิจารณ์หนักบนโลกโซเชียล เป็นกระแสที่กำลังดังอย่างมากบนโลกโซเชียล สำหรับนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา ที่ได้มีการให้ผู้สื่อข่าวหญิงไปร่วมหาหลักฐาน หลวงปู่แสง ที่สำนักสงฆ์ดงสว่างธรรม อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์หนักว่าจะเป็นการจัดฉากหรือไม่

ล่าสุดทาง ช่อง 3 ได้ออกมาโพสต์ประกาศว่า ได้สอบถามผู้สื่อข่าวหญิงคนดังกล่าวแล้ว และรับว่าเป็นเรื่องจริง โดยทางช่องได้แจงว่าตอนนี้ได้มีการทำการพักงานผู้สื่อข่าว และตั้งกรรมการสอบสวนอีกด้วย

“ประกาศสำนักข่าว สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ตามที่ปรากฏข่าวว่า นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เปิดเผยว่า ตนเองเป็นผู้ขอให้ผู้สื่อข่าวหญิงไปร่วมหาหลักฐาน ที่สำนักสงฆ์ดงสว่างธรรม อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร จนกลายเป็นคลิปภาพที่ปรากฏในข่าว

จากกรณีดังกล่าว สำนักข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3ได้สอบถาม ผู้สื่อข่าวภาคสนามที่ติดตามทำข่าวหมอปลา โดยได้รับชี้แจงว่า ตนได้รับรู้ว่ามีการถ่ายคลิปภาพผู้สื่อข่าวหญิงจริง แต่ไม่ได้มีการแจ้งให้ต้นสังกัดทราบถึงกระบวนการได้มาซึ่งภาพข่าว ซึ่งมีความล่อแหลมต่อหลักจรรยาบรรณการทำหน้าที่สื่อมวลชน ที่อาจนำไปสู่การนำเสนอข่าวที่ไม่ครบถ้วน หรือผิดไปจากข้อเท็จจริง

สำนักข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ตระหนักถึงจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อมวลชน และ ได้ดำเนินการสอบสวนทันทีเมื่อได้ทราบประเด็นปัญหากรณีคลิปข่าวดังกล่าว ผลการสอบสวนเบื้องต้นได้มีการตักเตือนผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวทันที และได้พิจารณาสั่งพักงานเป็นเวลา 15 วัน เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวน ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมรวมถึงการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องและหัวหน้างาน ก่อนจะมีการกำหนดบทลงโทษที่เหมาะสมต่อไป โดยฝ่ายข่าวคำนึงถึงความรอบคอบและตระหนักในการนำเสนอข่าวที่ไม่ขัดต่อจริยธรรมวิชาชีพเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดเสียหาย และต้องขออภัยในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป